หน้าเว็บ

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ข้ามไปเที่ยว สะหวันนะเขต ง่ายๆใครๆก้อทำได้



  พอเอ่ยชื่อถึงแขวงสะหวันนะเขตกับแบบจริงๆ กลับมีคนรู้จักไม่มากอย่างเวียงจันทร์ หลวงพระบาง หรือปากเซ ที่เป็นแบบนี้คงเป็นเพราะว่าแขวงสะหวันนะเขต เป็นเมืองแห่งการค้าการลงทุน หรือว่าง่ายเป็นเมืองเศษฐกิจ มากกว่าเมืองต่างๆใน สปป.ลาวที่เน้นไปทางการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ

  แต่ก้อไม่ได้หมายความว่า มันไม่น่าเที่ยวอย่างที่คิดนะครับ จริงๆแล้วแขวงสะหวันนะเขตมีประวัติอันยาวนาน และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย ตั้งแต่ก่อนสมัยที่ลาว จะตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสซะอีก ซึ่งเดี๋ยวผมจะค่อยๆอธิบายให้ฟังกันเป็นระยะๆครับ

  ในส่วนของวันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังในเรื่องของการข้ามแดนล้วนๆบางคนที่อยากมาเที่ยวอาจลังเล ไม่รู้วิธีข้าม? ข้ามยากไหม? ต้องเอาอะไรไปบ้าง? วันนี้ผมจึงพาทุกคนที่อยากจะข้ามไปเที่ยวที่นี่ มารู้จักวิธีข้ามฝั่งด้วยตนเองกันครับ ไม่ยากเลย มาเริ่มที่การเตรียมตัวดีกว่า ว่าเราต้องเอาอะไรไปบ้าง
  • 1.หนังสือเดินทาง(passport)สามารถเดินทางเข้า-ออก สปป.ลาวได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า และอยู่ในสปป.ลาวได้30วัน
  • 2.บัตรผ่านแดนชั่วคราว(Tempolary Border Pass)สามารถเดินทางเข้าสปป.ลาว และอยู่ได้ครั้งละ 2วัน 3คืน
  • เอกสารที่ใช้ทำบัตรผ่านแดน
  •  -สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง จำนวน 1 ใบ
  •  -เด็กใช้สำเนาสูจิบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้าน
  •  -รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วหรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
  • เริ่มที่ต้นทาง คือบขส.มุกดาหาร ที่นี่เราต้องมาซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารระหว่างประเทศ ตารางและเวลาเดินรถดูได้จากป้ายด้านบน ส่วนใครที่ไปรอขึ้นรถที่หน้าด่านก้อได้ไม่มีปัญหาอะไร
  • หน้าตาของตั๋วเดินทางเป็นแบบนี้(ขออนุญาตเบลอวันที่เดินทางนะครับ) สนนราคาอยู่ที่50 บาท
  • สภาพคนที่มารอเพื่อเดินทางข้ามฝั่งสงสัยจะร้อนจริงๆ รอกันต่อไปเพราะ 1 ชม.จะมีรถแค่ 1 คัน
  • เสร็จแล้วก้อมารอรถที่ชานชาลาที่10เลย ป้ายบอกชัดเจน ผมเดินทางตอนบ่ายอากาศค่อนข้างร้อนนิดนึงครับ 

  • แล้วก้อมาจนได้ เตรียมเก็บกระเป๋าขึ้นรถกันได้เลย ส่วนสัมภาระที่เอาขึ้นไปบนรถไม่ได้ ก้อจะมีบริการฝากไว้ใต้ท้องรถให้ครับ ไม่ลำบากเลยใช่ไหม
  • สำรวจภายในรถ ก็ดูดี เป็นรถปรับอากาศ แอร์เย็นใช้ได้ พร้อมแล้ว!! รออะไรละ ไปกันเลย!!
  • ใช้เวลาไม่นานนัก เราก้อมาถึงด่านชายแดนมุกดาหาร-สะหวันนะเขตระยะทางประมาณ 7.5กิโลเมตร เท่านั้น
  • มาถึงเราก้อลงจากรถ แล้วตรงไปตู้ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอใบตรวจคนเข้าเมือง(thai immigration forms)จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขอย่อเป็น ตม.ละกันจะได้เข้าใจง่าย ขอเผื่อไว้ซักหน่อยก้อดี เผื่อเขียนผิดหรือเอาไว้ใช้ข้ามแดนคราวต่อไป จะได้ไม่ต้องมาเขียนที่หน้าด่าน
  •  หน้าตาของเจ้าใบตรวจคนเข้าเมือง(thai immigration forms)ก้อเป็นจะเป็นแบบนี้ เขียนไปเลยทั้งขาเข้า ขาออก จะได้ไม่ต้องมาสับสนทีหลัง ส่วนใครที่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษ ก็ดูได้จากลิ้งที่ผมแนบให้เอานะครับ http://pantip.com/topic/31458940 ในกรณีที่ท่านใช้ Border Pass ก้อข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย
  • ขั้นตอนต่อไปหลังจากเขียนใบตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ   เราก้อมายืนรอต่อคิวเพื่อประทับตราหนังสือเดินทาง วันนี้คนเยอะพอสมควร แต่ก้อใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่
  •   TRICK ที่สำคัญในขั้นตอนนี้ก็คือหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตม.ประทับตราหนังสือเดินทางให้เราแล้ว อย่าลืมตรวจทานตราประทับวันเข้าบนหนังสือเดินทางของเราด้วยนะครับ เพราะพี่เจ้าหน้าที่เค้าทำงานหนัก อาจมีหลงลืมบ้าง เป็นหน้าที่เราที่ต้องตรวจความเรียบร้อยเอง ไม่งั้นข้ามไปถึงฝั่ง สปป.ลาวแล้วเจ้าหน้าที่ทางนั้นจะไม่ยอมให้เราเข้าเมือง ต้องเสียเวลามาประทับตราใหม่อีก 


  • พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก้อเดินไปขึ้นรถคันเดิม เค้าจะไปจอดเราอยู่อีกฝั่งหนึ่งของทางด่าน จะสังเกตได้ว่ารถคันเดิม แต่คนเพิ่มมา เป็นเพราะบางคนเค้ามารอขึ้นที่หน้าด่าน อย่าแปลกใจว่าเอ๊ทำไมคนมาจากไหน บางทีคนเยอะจนต้องยืนเลย 

  •  รอไม่นานเราก้อได้ข้ามสะพานกันแล้วครับ สะพานที่เราจะข้ามมีชื่อว่า สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่2 สะพานแห่งนี้ ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ  ในวันที่20 ธันวาคม 2549 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์
  • ข้ามสะพานกันเลย ข้างล่างเป็นแหล่งชุมชนคนไทยที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง ต้องขออภัยนะครับที่กล้องมีเงาๆเป็นเพราะว่าผมถ่ายจากบนรถโดยสาร
  • อย่างที่เราๆรู้กัน ว่าแม่น้ำโขงนอกจากจะเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-กับลาวแล้วนั้น ยังเป็นแม่น้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงผู้คนริมสองฝั่งน้ำแห่งนี้มาอย่างยาวนานจนกระทั้งปัจจุบัน ไหลผ่าน 6ประเทศ รวมระยะทางถึง 4,880 กิโลเมตร
  • เพียงไม่นาน เราก้อข้ามฝั่งมาถึงฝั่งลาวแล้วครับ เห็น Duty Free ของทางฝั่งลาวอยู่ไกลๆ    ถ้าขากลับใครพอมีเวลาก้อแวะมาซื้อของฝากปลอดภาษีกันครับ
  •   แล้วเราก้อมาถึงด่านฝั่งลาว รถโดยสารจะจอดให้ลงไปประทับตราหนังสือเดินทางกัน
  • ข้ามมาแล้วก็ทำเหมือนเดิมครับ ไปขอใบตวจคนเข้าเมือง จากทางฝั่งลาว ที่ตู้ประทับตราหนังสือเดินทางได้เลย หน้าตาก็จะประมาณนนี้ เขียนไม่ยากคล้ายทางฝั่งบ้านเรา
  • กรอกข้อมูลจนเสร็จแล้ว ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเข้าแถวรอ เพื่อประทับตราหนังสือเดินทางกับทาง ตม.ลาวครับ
  •  TRICK นิดหน่อยตรงนี้ก้อคือควรจะหาเงินพอดีกับจำนวนที่เราจะจ่ายนะครับ ตรงนี้จ่าย 50บาท จริงแล้วถ้าExchange เป็นเงินกีบ เราจะขาดทุนครับ เพราะว่า มันแค่10,000กีบ แต่ด้วยเงินที่อ่อนค่าลงของ เรา จาก 1 บาท = 250 กีบเมือก่อน ตอนนี้อยู่ราวๆ 230 กีบ ทำให้การแลกเงินไม่ลงตัว ทางด่านลาว และพ่อค้าแม่ค้าของที่นี้ ก้อเลยไม่ทอนเศษเราครับ คิดหยวนๆ กำไรอยู่ที่เค้า 

  •  มีข้อควรระวังอีกข้อ คือการถ่ายรูป ในบริเวณด่านลาว และไทย เค้าไม่อนุญาติให้ถ่ายนะครับ  อยากถ่ายจริงๆก้อแอบๆเอาแบบผม แต่ถ้าเจ้าหน้าที่เค้าเห็นผมไม่เกี่ยวน้า

  • หลังจากที่ประทับตราหนังสือเดินทางเสร็จ เราก็จะมาเจอตู้อีกตู้นึง เป็นตู้เก็บค่าล่วงเวลา จากการที่ผมข้ามฝั่งบ่อยๆ ผมยังไม่รู้เลยว่าค่าล่วงเวลานี่เค้าคิดเวลาอย่างไรถึงเก็บไม่เก็บ ต้องขออภัยผู้อ่านจริงๆครับ แต่ก้อเตรียมเงินไว้ด้วยละกันครับ 50 บาท สำหรับตู้นี้
  • ตรวจทานตราประทับบนหนังสือเดินทางให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จครับ ทีนี้เราก้อข้ามมาลาวได้อย่างถูกต้องแล้ว มานั่งรอรถคันเดิม เพื่อเข้าเมืองกัน
  • รอรถนานหน่อย ก้อเลยถือโอกาศเก็บบรรยากาศหน้าด่านทางฝั่งลาวมาให้ดูกัน อันนี้ตู้ATMของทางลาว เห็นตั้งอยู่หลายปีละนะ แต่ไม่เห็นมีคนมากด

  • ภาพนี้เป็นถาพหน้าด่านอีกด้านของ สปป.ลาวครับ

  • มีTrick มาฝาก เห็นกลุ่มคนที่ใส่เสื้อฟ้าๆไหมครับ กลุ่มนั้นคือกลุ่มรถรับจ้างคนลาว เค้าก็จะเอ่ยแพ็คเกจราคาการนำเที่ยวให้เราฟัง ว่าไปไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ แล้วแต่ใครสะดวกจะไปนะ แต่ถ้าเป็นผมจะไม่ไป นั่งรถโดยสารคันเดิมไปลงที่ ขนส่งของสะหวันนะเขต ที่นั่นก้อจะมีกลุ่มรถรับจ้างเหมือนกันกับที่นี่ สนนราคาก้อจะถูกลงหน่อย เพราะเรานั่งไกล้ลง
  • แล้วเราก้อมาถึงจนได้ สิ้นสุดการเดินทางของรถโดยสารสายนี้คือ สถานีโดยสารสวันนะเขต จะเห็นว่า กลุ่มรถรับจ้างชาวลาวมารอรับเรากันเต็มเลย
  • นี่ละครับ สถานีรถโดยสายสะหวันนะเขต ที่นี่ก็จะเป็นท่ารถไปที่ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเวียงจันทร์ หลวงพระบาง วังเวียง ลาวบาว ปากเซฯลฯ เที่ยวจนหนำใจแล้วก้อมาขึ้นรถกลับมุกดาหารที่นี่ได้เลย
  • ใบบทความนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ เดี๋ยวบทความหน้าผมจะพาไปเที่ยวเมืองสะหวันนะเขตกันแบบเจาะ  ลึกกันครับ




สรุปการเดินทาง

  • ระยะเวลาเดินทาง  1.5-2 ชั่วโมง
  • ระยะทาง  15.4 กิโลเมตร
  • ค่าใช้จ่าย    150  บาท

เป็นกำลังใจให้เจ้าของบทความด้วยการกดถูกใจนะครับ และเห็นว่ามีประโยชน์กดแชร์ต่อให้เพื่อนครับ


Popula Post